แกงเลียง เป็นอาหารที่มีรสชาติเฉพาะตัว อร่อยเผ็ดร้อนด้วยพริกไทย หอมกลิ่นสมุนไพรจากพืชผักหลากหลายชนิด มีประโยชน์ในการขับพิษ ไข้เป็นอย่างดี
แกงเลียง เป็นแกงที่ประกอบด้วยน้ำพริก ผัก เนื้อสัตว์ น้ำแกงและเครื่องปรุงรส น้ำพริกแกงเลียงจะแปลกกว่าน้ำพริกแกงชนิดอื่นๆ เพราะมีพริกไทย หัวหอม กะปิ กุ้งแห้ง ปลาย่างหรือปลากรอบ น้ำแกงมีลักษณะข้น ผักที่นิยมใส่ที่สามารถบอกลักษณะว่าเป็น “แกงเลียง” คือ ใบแมงลักมี กลิ่นหอม่ารับประทาน นอกจากนั้นยังมีผักเช่น ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน หัวปลี บวบ ผักหวาน ฯลฯ เนื้อสัตว์ ได้แก่ กุ้งสด เนื้อไก่ ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลาหรือเกลือ
ส่วนผสม แกงเลียง
- บวบเหลี่ยม ประมาณ 1 ลูก ขนาดพอดีปอกเปลือกออกจนเกลี้ยงเกลา ให้เหลือเปลือกไว้บ้าง เพื่อรักษาคุณค่าทางอาหาร หั่นเป็นชิ้นขนาด 12 – 15 ชิ้น
- ฟักทอง หันชิ้นพอคำ จำนวน 10 – 12 ชิ้น
- กระชาย 2 หัว ทุบเบาๆแล้วหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้ว
- ยอดตำลึง 10 ยอดเด็ดเอาแต่ใบอ่อนๆ
- ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 4 ฝัก
- ถ้าชอบเผ็ด ใส่พริกขี้หนูสด 5 – 6 เม็ด บุบพอแตก
- ใบแมงลัก 3 – 4 กิ่ง เด็ดเอาแต่ใบหรือยอดดอกอ่อนๆ
- กุ้งแม่น้ำหรือกุ้งชีแฮ้หรือกุ้งก้ามกราม 6 – 7 ตัว ปอกเปลือกเอาเส้นดำออก
- น้ำซุป(จากการต้มซี่โครงหมูหรือโครงไก่) หรือไม่มีก็น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
เครื่องแกง แกงเลียง
- กระชาย 4 หัว
- พริกชี้ฟ้าแดงผ่าเอาเมล็ดออก 2 เม็ด
- พริกไทยขาว 12 เม็ด
- หอมแดงหัวขนาดกลาง 5 หัว
- กุ้งแห้ง 2 ขีดครึ่ง
วิธีทำ แกงเลียง
- โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด ถ้าชอบให้น้ำแกงข้น ให้ใช้เนื้อปลา จะย่างหรือต้มสุกก็ได้แล้วนำมาโขลกรวมกับเครื่องแกง
- นำน้ำซุปหรือน้ำเปล่าตั้งไฟพอเดือด ใส่เครื่องแกงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมให้ได้รสเค็มและเผ็ดนิดๆ พอน้ำแกงเดือดอีกที ใส่ผักชนิดที่สุกยากลงก่อน คือ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน ตามด้วยกุ้ง รอจนแน่ใจว่าผักสุกดีแล้ว จึงใส่ใบตำลึง
- และสุดท้ายใส่ใบแมงลักแล้วคนให้เข้ากัน
เคล็ดลับในการปรุง แกงเลียง
ตั้งน้ำให้เดือดใส่เครื่องแกงแล้วปรุงรสก่อน รอให้น้ำแกงเดือดอีกรอบจึงใส่ผัก