วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

ส้มตำป่า

ส้มตำป่า แซ่บแบบไทย


user posted image

เครื่องปรุง

◊ มะละกอ
◊ พริกสด พริกแห้ง 
◊ กระเทียม มะเขือเทศ มะกอก มะเขือเปราะ
◊ กุ้งแห้ง
◊ ปูเค็ม ปลาร้า น้ำปลา มะนาว ผงชูรสถ้าชอบ
◊ น้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ
◊ หน่อไม้ต้ม เม็ดกระถิน หอยโข่ง ถั่วฝักยาว ผักกระเฉด ถั่วงอก ผักกาดดอง ผักบุ้ง
◊ ปลากรอบเอาไว้โรยหน้าค่ะ ถ้าใช้ปลาซิวแดดเดียวทอดจะอร่อยมากเลย

user posted image

เครื่องปรุง 

user posted image

ตำพริกกระเทียมแบบส้มตำทั่วไปเลยครับ ปรุงทุกอย่าง ชิมรสตามชอบ ยกเว้นผักกับหอยนะครับใส่ทีหลังครับ 

user posted image

ใส่เครื่องปรุงเสร็จแล้วเราก็ใส่เส้นมะละกอ 

user posted image

ตามด้วยหอยโข่งกับผักต่างๆ ใส่ลงไปชิมรสตามชอบเลย

user posted image

เสร็จแล้วครับ 

user posted image

ใกล้ๆ 

user posted image

อันนี้โรยปลากรอบ เจี๊ยบไม่มีปลาซิวทอดกรอบ เลยใช้หนังปลาทอดกรอบแทน ถ้าใครมีกุ้งฝอยคั่ว โรยหน้าได้เหมือนกัน แต่วันนี้เสียดายที่ร้านไม่มีกุ้งฝอยคั่ว หายากครับ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว 

user posted image

วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

หมูสะเต๊ะ

แซ่บแบบไทย
สูตรอาหารไทย หมูสะเต๊ะ (Pork Satay) เป็นเมนูอาหารภาคใต้ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วทุกภาค ด้วยเป็นอาหารที่ทานง่าย มีความหอมอร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะด้วยเครื่องเทศมากมาย ทว่าถ้าจะให้หมูสะเต๊ะอร่อยครบสูตร นอกจากการหมักเนื้อให้หอมนุ่มอร่อยแล้ว ก็ต้องทานเคียงกับอาจาดแก้เลี่ยน พร้อมกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะเข้มข้นรสเด็ดก็ช่วยเพิ่มอรรถรสความอร่อยกลมกลมของหมูสะเต๊ะได้อย่างลงตัวสุดๆ สำหรับใครที่ชอบทานหมูสะเต๊ะห้ามพลาด วันนี้เราได้นำสูตรวิธีทำหมูสะเต๊ะเด็ดๆ มาฝาก เหมาะมากที่จะทำทานในวันหยุดหรืองานสังสรรค์หรือนึกหิวก็มาทำทานได้เลย (^_^)...อีกเมนูที่ทำไม่ยากครับ...แต่อาจจะต้องเตรียมวัตถุดิบเครื่องปรุงหลายอย่างอยู่บ้าง…ถ้ายังไงเราไปดูพร้อมกันเลย


สำหรับการทำหมูสะเต๊ะให้อร่อยเด็ดครบสูตร ในส่วนขั้นตอนการทำนั้น เราอาจต้องการความพิถีพิถันอยู่บ้าง ตั้งแต่การเลือกหมูอย่างไร การหมักหมู ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากเพราะส่งผลต่อรสชาติ และความแข็งนุ่มนิ่มของเนื้อหมู รวมถึงเทคนิคการหมักทิ้งข้ามคืนในอุณหภูมิที่ต้องจำกัดอยู่ในความเย็น รวมทั้งขั้นตอนการนำหมูเสียบไม้ จะต้องมีการเสียบหมูอย่างไรให้หมูที่ย่างออกมาดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ส่วนการย่างหมูก็มีส่วนสำคัญ ต้องย่างในไฟขนาดไหนถึงจะกำลังสุกน่าทาน ตลอดจนขั้นตอนการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะเด็ดๆ ที่เราก็ได้รวบรวมคำแนะนำเหล่านี้มาไว้ที่นี่แล้ว…

วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

สลิ่มกระทิสด



เปลี่ยนค่าใช้จ่าย เป็น ธุรกิจสร้างรายได้ กับ 

Moomall







อัฟเดท ขั้นตอนการสมัคร Pacer

1  คลิกลิ้งค์นี้เลยครับ  https://bit.ly/2KpPkZe
แล้วกรอกเบอร์โทรคุณเลยครับแล้วขอรับotp

2.กดปุ่มสมัคร Pacer ก่อนทำการสั่งซื้อสินค้า (สำคัญมากห้ามกดซื้อสินค้า ก่อน กดสมัคร pacer แต้มจะไม่ถูกนับ)


3.เลือกซื้อสินค้าให้ครบ 120MP ขึ้นไป(ก่อนเลือกซื้อสินค้าให้กดปุ่มสมัคร Pacer ก่อน)


4.ใส่รหัสเชิญ (ek00028)หน้ายืนยันการสั่งซื้อ กรอก ที่อยู่จัดส่ง อีเมล์ และ จะมีช่องด้านล่าง ให้เราใส่รหัสเชิญ ของผู้แนะนำ ( ตรวจให้ดี ก่อนกดยืนยัน บางครั้ง อาจเป็นรหัส คนอื่น ที่แชร์ลิ้งค์ เข้ามา กรอก หรือ แก้ ให้เป็น รหัสของผู้แนะนำของเราไม่มีเว้นวรรค)


5.กดยืนยันสั่งซื้อสินค้าและเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงินให้เสร็จสิ้น ระบบจะขึ้นว่าชำระเสร็จสิ้น


6.ไปที่หน้าตรวจสอบรายการสั่งซื้อ เพื่อยืนยัน MP (ยินยอมไม่ยกเลิก ออร์เดอร์)เพื่อรับรหัสแนะนำทันทีและปรับ ตำแหน่งเราเป็น Pacer 


8.เริ่มขยายงานได้เลยโดยคัดลอกรหัสเชิญหรือ ลิ้งค์ ขยายงาน ที่เมนู Pacer ส่งให้ผู้มุ่งหวัง ต่อไป

===========
ยินดีต้อนรับ สู่ธุรกิจ moomall "เปลี่ยนค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้เป็นรายได้ประจำ"
moomall "Great Life for Participant ชีวิตที่ดีของผู้ที่มีส่วนร่วม"
  



🎆📲เปิดตัวแอพพลิเคชั่นห้างสรรพสินค้าออนไลน์สร้างรายได้สุดล้ำแห่งใหม่ #สมัครครั้งเดียวเก็บเกี่ยวตลอดชีวิต

🙋พบกับประสบการณ์ใหม่แห่งการช้อปปิ้งออนไลน์กับแอพพลิเคชั่นสุดล้ำที่จะทำให้คุณมีรายได้มากขึ้น #สร้างธุรกิจเงินล้านง่ายๆด้วยรายจ่ายประจำ เพียงแค่ใช้แอพ ช้อปปิ้ง แชร์ลิงค์ สร้างรายได้ https://youtu.be/-HslAwxpijE

ลงทะเบียนทดลองใช้แอพพลิเคชั่นสร้างรายได้ฟรีกดที่นี่ครับ  https://bit.ly/2KpPkZe

👉เทคนิควิธีสร้างรายได้ผ่าน Application แบบง่ายๆลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ครับ
 https://bit.ly/2xSTJRW


🎆📲

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ปลาร้าสับผัด

แซ่บแบบไทย



ปลาร้าที่สับจะใช้ปลาร้าปลาสร้อยเพราะก้างไม่แข็ง สับง่าย ถ้าปลากระดี่ก้างจะแข็งโดยเฉพาะก้างกลางและก้างตรงท้องจะใหญ่และแข็งมาก วัตถุดิบที่ใส่ประกอบด้วยปลาร้า 1 กก. หัวหอมแดง 1 กก. ตะไคร้ 20 ต้น ใบมะกรูด 40 ใบ กระชาย 8 ขีด มะขามเปียก 2 ปั้น พริกอ่อน 15 เม็ด พริกขี้หนู 20-30 เม็ด และหมูสับ 8 ขีด (ถ้าทำกินน้อยๆ ก็ลดปริมาณของวัตถุดิบลงตามสัดส่วนหรือตามใจชอบ) การทำปลาร้าสับต้องถึงเครื่องถึงจะอร่อย
เครื่องปรุงทั้งหมดสับๆๆ ให้เข้ากันplaผักกับน้ำมัน
ขั้นตอนเริ่มจากนำวัตถุดิบทั้งหมดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นก็เริ่มซอยทั้งหัวหอมแดง ตะไคร้และใบมะกรูด กระชายหั่นชิ้นเล็กๆ ตามขวาง พริกอ่อนและพริกขี้หนูหั่นตามขวาง มะขามเปียกดึงรกออกแล้วล้างน้ำพักไว้ เนื้อหมูสับให้ละเอียด ทุกอย่างเมื่อหั่นๆ สับๆ ซอยๆ เสร็จก็พักไว้ก่อน
จากนั้นนำมาปลาร้ามาคั้นน้ำออกให้หมดเพราะถ้าไม่หมดเวลาสับจะกระเด็น สับยาก น้ำปลาร้าที่คั้นออกใส่ถ้วยพักไว้ก่อน จากนั้นนำปลาร้ามาสับพร้อมกับมะขามเปียกให้ละเอียด เสร็จแล้วนำเครื่องปรุงที่ซอยไว้ได้แก่หัวหอมแดง ตะไคร้ใบมะกรูด และกระชายมาสับรวมกับปลาร้า สับให้เข้ากันพอหยาบๆ ไม่ต้องให้เครื่องละเอียดมาก (ใบมะกรูดไม่ต้องใส่ตอนสับทั้งหมด ให้แบ่งไว้ใส่ตอนผัดสักเล็กน้อย)
หลังจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการผัด ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไปพอประมาณ พอน้ำมันร้อนนำปลาร้าที่สับไว้ลงไปผัดพอร้อนๆ ก็ใส่หมูสับตามลงไปผัดให้เข้ากันจนสุกดี ชิมดูรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดตามใจชอบ ถ้าไม่เค็มก็นำน้ำปลาร้าที่คั้นพักไว้มาใส่ ส่วนรสเปรี้ยวถ้าน้อยไปก็คั้นน้ำมะขามเปียกเพิ่มเข้าไป พอทุกอย่างสุกได้ที่ก็ปิดแก๊สทิ้งไว้สักพักให้ความร้อนเริ่มคลายตัว จากนั้นจึงจัดการใส่ใบมะกรูดที่เหลืออยู่ พริกอ่อนและพริกขี้หนูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
ผักเม็กในสวนยอดมะกอกม้ายบ้านใบบัวบกและผักแว่นหลังครัว
ปลาร้าสับต้องกินกับผักดิบ ทั้งมะแว้ง แตงกวา แตงไทยอ่อน ยอดกระถิน ใบบัวบก หัวปลี มะเขือกรอบหลากหลายพันธุ์ ฯลฯ ซึ่งนอกจากยอดมะกอกกับผักเม็กแล้ว ผักดิบที่เหมาะกับปลาร้าสับอีกอย่างคือขมิ้นขาว หรือบางบ้านเรียกขมิ้นม่วง ด้วยรสชาติที่เผ็ดนิดๆ กลิ่นหอมฉุนเล็กน้อย เมื่อจิ้มกับปลาร้าสับแล้วเข้ากันดีจริงๆ ถ้าได้กินละก็รับรองจะติดใจในรสชาด ว่าแล้วก็อย่ารอช้า...ตั้งสำรับกันเลยดีกว่า

แกงรัญจวน แซ่บแบบไทย โบราณ

แกงรัญจวน   เป็นอาหารชาววังที่มีมาแต่โบราณ
เจ้าของสูตรต้นตำหรับคือ ท่านหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์
มีบันทึกไว้ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ท่าน ม.ล.เนื่อง นิลรัตน์
ท่านได้ปรุงแกงรัญจวนขึ้นมาในวัง
ซึ่งก็มีเครื่องปรุงที่สำคัญ อันได้แก่ "น้ำพริกกะปิ"
ในสมัยโบราณนั้น ท่านจะไม่ทิ้งอาหาร (ไม่กินทิ้ง กินขว้าง)
น้ำพริกกะปิที่ท่าน ม.ล.เนื่อง นำมาปรุงแกงรัญจวน
ก็ใช้น้ำพริกกะปิถ้วยเก่า ที่เหลือจากการกินในมื้อก่อนๆ



เครื่องปรุงที่ต้องใช้ประกอยด้วย
ซี่โครงหมูอ่อน
ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพา
หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู และมะนาว
หั่นซอยตะไคร้ เตรียมเครื่องปรุงให้พร้อม
และที่ขาดไม่ได้ ขาดไป รสชาติไม่รัญจวนใจแน่นอน
"น้ำพริกกะปิ"



วิธีปรุง
นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป
น้ำเดือด ใส่ซี่โครงหมูลงไป ตามด้วยเกลือป่น 1 ชช.
เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 30 นาที - 1 ชม.
เพื่อให้ซี่โครงหมูเปื่อยนุ่มไม่เหนียว
หลังจากเวลาผ่านไป เมื่อซี่โครงหมูสุกได้ที่
เทน้ำทิ้งไปครับ ใช้แต่ซี่โครงหมูล้วนๆ
ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ก็ไม่ใช้เช่นกัน
ที่ต้องต้มแบบนี้ก็เพื่อให้ซี่โครงหมูเปื่อยนุ่ม
และหอมเครื่องสมุนไพร ไม่มีกลิ่นคาว
ต่อจากนั้น นำน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด
ใส่ซี่โครงหมูที่เคี่ยวไว้ลงไป ใช้ไฟอ่อนๆ แค่พอเดือดครับ
หลังจากน้ำเดือด ตักน้ำพริกกะปิใส่ลงไป 3-4 ชต.
ตามด้วย หอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู ใส่ลงไปพร้อมกัน
ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ชิมรสตามชอบ
หากชอบเปรี้ยว บีบมะนาวเพิ่มได้ครับ
และสุดท้าย...ใบโหระพา โรยลงไปครับ
เสร็จแล้วก็ทำการปิดไฟเตาแก๊ส
เพียงเท่านี้ก็เป็นอันว่า สำเร็จ เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ

วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

แกงผักหวานป่าใส่ไข่มดแดง

แซ่บแบบไทย


ส่วนประกอบ1.ผักหวานป่า 2 กำมือ (เด็ดก้านแข็งๆออกด้วย)
2.ไข่มดแดง 1 ถ้วยน้อย 
3.แมงลัก (ผักอีตู่) 1 กำมือ
4.ปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ 
5.นํ้าปลา 1 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำ 1 ถ้วย
7.พริกแห้ง หรือดิบ 5 เม็ด
8.ตะไคร้ 1 ต้น
9.หอมแดง 3-5 หัว
10.เกลือป่นเล็กน้อย 
11.ใบมะกรูด


วิธีทำ1.ล้างผัก ล้างไข่มดแดง ให้สะอาด เตรียมไว้
2.โขลกเครื่องแกงทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด(พริก ตะไคร้ หอมแดง เกลือป่น)
3.หม้อตั้งไฟแล้วใส่น้ำลงในหม้อ พอเดือด ใส่เครื่องแกง ผักหวาน ไข่มดแดง
4. ปรุงรสด้วยปลาร้า น้ำปลา ตบท้ายด้วยผักแมงลัก (ผักอีตู่)
5. ยกลงตักใส่ถ้วย เสิร์ฟ

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

ข้าวผัดปู

ข้าวผัดปู แซ่บแบบไทย


ส่วนผสม
-ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ชช.


-ซีอิ๊วขาว 1 ชช.


-น้ำตาลทราย 1 ชช. ลองใส่ซักครึ่งนึงก่อน เผื่อไม่ชอบหวาน


-พริกไทยป่น


-ข้าวสวย 1 ถ้วยตวง ไม่เอาข้าวแฉะนะ 


-ต้นหอมซอยไว้โรยใส่ข้าวผัด มากน้อยตามแต่ใจครับ


-กระเทียมสับละเอียด ผมใช้ 1 ช้อนกินข้าว อันนี้ความชอบส่วนตัว ชอบกระเทียม


-เนื้อปแบบนิ่งสุกแล้ว ใส่มากน้อยตามฐานะเลยครับ รู้ว่าเนื้อปูมันแพง แต่เราทำ

  กินเองอ่ะนะ จัดหนักไปเลย


-ไข่ไก่  2 ฟอง เบอร์ไหนก็ได้นะ

วิธีทำให้ แซ่บแบบไทย

วันนี้ผมจะลองใช้ไฟแบบแรงสุดของเตาผมตลอดการทำ เคยได้ยินว่าข้าวผัดต้อง

ใช้ไฟแรงจะทำให้ข้าวผัดมีกลิ่นหอม 

แต่คนเขาก็บอกแบบนี้เยอะนะ แต่เขาไม่อธิบายว่าทำไมต้องใช้ไฟแรงด้วยน่ะซิ 

ไม่มีเหตุและผลอาจเป็นเพราะหวงสูตรหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้เหมือนกันเริ่มเลยนะ 

แนะนำนิดนึงให้เตรียมของไว้ใกล้มือให้พร้อมวันนี้จะผัดเร็วเพราะใช้ไฟแรง

ตั้งกะทะใส่น้ำมันผมใช้ประมาณ 2 ช้อนกินข้าว เปิดไฟแรง


รอกะทะร้อน ใส่กระเทียมลงไป ผัดให้มีกลิ่นหอมใส่เนื้อปูลงไปผัด

ตอกไข่ใส่ลงไปเอาตะหลิวตีไข่แดงให้แตก แล้วผัดไปเรื่อยๆจนไข่กำลังจะสุก 

ไข่มันจะแฉะๆอยู่ เอาข้าวสวยใส่ลงไปคลุกให้เข้ากันดี 

ทีไม่ให้ไข่สุกก่อนแล้วเอาข้าวลง ก็เพราะว่า เราต้องการให้ไข่แฉะๆนั้น 

ได้เกาะกับเมล็ดข้าวบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าไข่ยังเป็นน้ำอยู่แล้วเอาข้าวลงนะ 

ข้าวผัดที่ออกมามันจะแฉะ ไม่น่ากิน 

จากนั้นปรุงรส ด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำตาล 

ชิมรสชาติ ถ้ารสชาติได้ตามที่ต้องการแล้ว โรยหอมซอย พริกไทยป่น 

ปิดไฟคลุกให้เข้ากัน เสร็จแล้วครับ

วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

แกงเผ็ดเนื้อปลาบึก

แซ่บแบบไทย

ส่วนผสม-เครื่องปรุง
-ปลาบึกหั่นเป็นชิ้นขนาดกลาง เอาไว้แต่เนื้อปลา
-กระทิสด
- พริกแกง
-เกลือ
-น้ำตาลทราย
-หอมแดง พริกแห้งแช่น้ำ ตระไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม พริกไทยอ่อน
-น้ำปลา
วิธีปรุงให้แซ่บแบบไทย
-ตั้งน้ำกระทิสดให้เดือดด้วยไฟอ่อน เคี่ยวเครื่องแกงที่เตรียมไว้ 
(โขลกพริกแกงใส่หอมแดง พริกแห้งนำมาแช่น้ำให้อ่อนเอาเมล็ด
ออกเหลือไว้แต่ผิวพริกนำมาโขลกเพิ่มเพื่อให้ได้เครื่องแกงเข้มข้นขึ้น) 
นำปลามาผัด เติมเกลือ เติมน้ำตาลเล็กน้อย พริกไทยอ่อน ปรุงรส
ตามใจชอบ  ควรรับประทานในขณะที่อาหารร้อน ๆ จะทำให้รสชาติอร่อย

ผัดไทยกุ้งสด

แซ่บแบบไทย
เครื่องปรุง-ส่วนผสม
* กุ้งสด 12 ตัว (ทำความสะอาด, ปอกเปลือก)
* เส้นจันท์ (หรือเส้นเล็ก) 90 กรัม
* ถั่วงอก 50 กรัม
* ใบกุ้ยช่าย 2 ช้อนโต๊ะ (หั่นให้มีความยาวประมาณ 1 นิ้ว)
* น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมันหอย 6 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะขาม 3 ช้อนโต๊ะ (หรือน้ำส้มสายชู)
* น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
* หัวไชโป้ว 2 ช้อนโต๊ะ
* ถั่วลิสงบด 2 ช้อนโต๊ะ
* ไข่ 2 ฟอง
* พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบรสจัด)
* มะนาว 1/2 ลูก

วิธีปรุงให้แซ่บแบบไทย

1. กรณีใช้เส้นชนิดแห้ง ให้นำเส้นไปแช่น้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ประมาณ 30 นาที
2. ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง ใส่กุ้งลงไปผัดจนเริ่มสุก ตอกใส่ไข่ลงไปในกระทะ
 ใช้ตะหลิวเขี่ยให้ไข่แดงแตก พอไข่เริ่มสุก ใส่เส้น, น้ำตาล, ถั่วลิสงและ หัวไชโป้ว 
  ผัดจนเส้นเริ่มนุ่มและเครื่องปรุงทั้งหมดผสมกันทั่ว
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมันหอย และน้ำมะขาม (หรือน้ำส้มสายชู) ใส่ถั่วงอก,
 หัวไชโป้วและพริกป่น (ถ้าชอบรสจัด) ผัดอย่างรวดเร็วให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันทั่ว 
 ตักใส่จาน จัดแต่งด้วยถั่วงอกสด, พริกป่น, และมะนาว ข้างจาน ควรเสิรฟขณะยังร้อน
(สำหรับ 2 ท่าน)