วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เมนูข้าวต้มทะเล

เมนูข้าวต้มทะเล

popkook  เสนอเมนูข้าวต้มให้ทำทานครับ

ส่วนผสม
ข้าวสารกล้อง 2 ถ้วย
น้ำเปล่าสำหรับต้มข้าว 4-5 ถ้วย
ปลากะพงแดงหั่นเป็นชิ้นพอคำ (หรือปลากะพงขาว) 300 กรัม
กุ้งขาวปอกเปลือก
เนื้อปลาหมึกหั่นพอคำเห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 5-6 ดอก
ตังฉ่าย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 15-20 เม็ด
น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
น้ำซุปปลา (หรือใช้น้ำเปล่าแทนได้) 3 ถ้วย
ต้นหอม ขึ้นฉ่ายซอย อย่างละ 2 ต้น
ขิงอ่อนซอย 1/4 ถ้วย
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวตามชอบ

วิธีทำ
1. ใส่น้ำซุปปลาลงในหม้อตั้งไฟอ่อนๆไว้
2. ต้มข้าวสารกล้องกับน้ำเปล่าจนเมล็ดข้าวสุกนุ่ม ยกลงพักไว้
3. โขลกรากผักซี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกันแล้วผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ใส่เห็ดหอมลงผัดตามด้วยเนื้อปลา พอสุกจึงใส่ตังฉ่าย ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ตักขึ้นพักไว้ให้เย็น
4. ตักข้าวต้มใส่ถ้วย ตามด้วยปลา กุ้ง ปลาหมึกกับเห็ดหอมที่ผัดไว้ราดด้วยน้ำซุปปลาที่ต้มไว้ในข้อแรก โรยต้นหอมขึ้นฉ่าย ขิง กระเทียมเจียว และพริกไทยป่น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

popkook.blogspot.com

ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู


ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู

      

ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
อีกเมนูปลาที่ popkook มาชวนให้ทำทานกันคือ"ผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู" การทำกากหมูเจียวเพื่อเป็นส่วนผสมในผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมูนั้น ควรหั่นมันหมูให้เป็นชิ้นเล็ก เพราะกากหมูจะเหลือง กรอบ น้ำมันหมูที่เจียวแล้ว นำมาทอดปลาจะทำให้ปลามีกลิ่นหอม และมีความฉ่ำนุ่ม

ส่วนผสมผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
ปลาช่อน (550 กรัม) 1 ตัว
มันหมูแข็งหั่นขนาด 2x2 ซม. 250 กรัม
น้ำ 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยอ่อนเด็ดช่อสั้น 2 ช่อ
ถั่วฝักยาวหั่นเฉียงลวกแล้วแช่น้ำเย็นจัด 4 ฝัก
พริกชี้ฟัาสีแดงและเขียวหั่นเฉียง 2 เม็ต
ใบมะกรูดทอดสำหรับตกแต่ง

เครื่องแกงผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
พริกแห้งเม็ดใหญ่ทั้งเมล็ดแช่น้ำจนนุ่ม 5 เม็ด
พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำจนนุ่ม 15 เม็ด
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
ข่าแก่หั่นละเอียด 2 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1 ช้อนชา
รากผักชีหั่น 2 ราก
พริกไทยขาวเม็ด 1/4 ช้อนชา
กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
กะปิ 2 ช้อนชา

วิธีทำผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมู
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย พักใว้
2. ขอดเกล็ดปลา ผ่าท้อง ควักไส้และดีออก ล้างเคล้าเกลือจนหมดเมือก ล้างให้สะอาด แล่เนื้อปลาทั้งสองด้าน หั่นเป็นชิ้นเฉียงหนา 1 นิ้ว ซับน้ำให้แห้ง
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่มันหมูลงเจียว หมั่นคนจนมีสีเหลืองกรอบ และมีน้ำมันออกจนหมด ตักกากหมูขึ้นใส่ปลาช่อนลงทอดจนสุกเหลืองทั่ว ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ตักน้ำมันที่ทอดปลาออกจนเหลือ 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำพริกแกงที่โขลกลงผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่น้ำ ผัดพอทั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาล ชิมรสให้ออกเค็มหวาน ใส่พริกไทยอ่อน ถั่วฝักยาวลวก และปลาทอด ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันทั่ว ใส่กากหมูเจียว และพริกชี้ฟ้า ผัดพอทั่ว ปิดไฟ
5. ตักผัดพริกแกงปลาช่อนกากหมูใส่จาน ตกแต่งด้วยใบมะกรูดทอด เสิร์ฟ

popkook.blogspot.com

ปลาตะเพียนต้มเค็ม


เมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม

เมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
วันนี้ popkookมีเมนูปลามาฝากครับ ปลาที่จะใช้ในเมนูนี้นั้น ก่อนที่จะลงมือปรุงอาหาร เราต้องทำการบั้งตัวปลาตะเพียนให้เป็นริ้วถี่ ๆ เสียก่อน เพื่อให้ก้างปลาขาดจากกันและง่ายต่อการรับประทานหรือใครจะประยุกต์ใช้ปลาทูสดแทนปลาตะเพียนได้ โดยใช้สัดส่วนของเครื่องปรุงรสที่เท่ากัน
และเพิ่มปริมาณปลาทูได้ตามชอบ





ส่วนผสมเมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
ปลาตะเพียนขนาดกลาง 2 ตัว
อ้อยสดหั่นเป็นท่อนยาว 3 นิ้ว บุญพอแตก 3 ท่อน
ขิงแก่หั่นเป็นแว่น 6-7 แว่น
รากผักชีบุบ 2 ราก
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1/4 ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่นหยาบ 2 ช้อนชา
กระเทียมหั่นหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด 15 เม็ด
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำเมนูปลาตะเพียนต้มเค็ม
1. ขอดเกล็ด ควักไส้ปลาออก ล้างให้สะอาด แล้วบั้งตัวปลาเป็นริ้วถี่ๆ พักไว้
2. วางอ้อย ขิง รากผักชีบุบลงในหม้อ ตามด้วยปลาตะเพียน ใส่น้ำพอท่วม เติมน้ำมะขามเปียก ซีอิ๊วดำ น้ำตาลปี๊บ และเกลือลงไป ต้มด้วยไฟแรง พอเดือด แล้วลดไฟอ่อน
3. โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยเข้าด้วยกัน แล้วผัดกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ตักใส่หม้อต้มเค็ม คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วเคี่่ยวจนส่วนผสมเข้าเนื้อปลา ตักปลาตะเพียนต้มเค็มเสิร์ฟร้อนๆ

popkook.blogspot.com

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เนื้อตุ๋นยาจีน



วันนี้ popkook จะชวนทำเนื้อตุ๋นยาจีนครับ เริ่มกันเลยครับ

เครื่องหมัก

◊ เนื้อน่องลาย ๑ กิโลกรัม
◊ เนื้อสามชั้น ๑ กิโลกรัม
◊ เอ็นแก้ว ๑ กิโลกรัม
◊ ไส้ ๓๐ บาท
◊ ขอบกระด้ง ๓๐ บาท
◊ เนื้อสันใน (สำหรับทำเนื้อสด) หมักกับน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น ๑ ชั่วโมง
◊ ลูกผักชีคั่วป่น ๑/๒ ช้อนชา
◊ เกลือ ๑/๒ ช้อนชา
◊ น้ำตาลทราย ๑/๒ ช้อนชา
◊ พริกไทยป่น ๑/๒ ช้อนชา
◊ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ ๑/๒ ช้อนชา
◊ ซีอิ๊วหวาน ตราง่วนเชียง

เครื่องตุ๋นยาจีน

◊ ลูกผักชี ๕ ช้อนแกง
◊ พริกไทยดำ ๓ ช้อนแกง
◊ อบเชย ๓ แท่ง
◊ โป๊ยกั๊ก ๕ ดอก
◊ ลูกจันทน์ ๓ ลูก (กระเทาะเปลือกออก)
◊ ใบกระวาน ๔ ใบ
◊ ลูกกระวาน ๕ ลูก
◊ กระเทียม ๒ กำมือ (ทุบพอแตก)
◊ ข่า หั่นแว่น
◊ ลำไยอบแห้ง
◊ คึ่นฉ่าย ๑๐ ต้น (ติดราก)
◊ น้ำตาลกรวด ๗ ก้อน
◊ ใบเตย

วิธีทำ

◊ ล้างเนื้อน่องลาย เนื้อสามชั้น เอ็นแก้ว ไส้ และขอบกระด้งด้วยเกลือและน้ำโซดาให้สะอาด ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
◊ หมักเนื้อกับเครื่องหมักต่างๆตามรายการข้างบน อย่างน้อย ๖ ชั่วโมง ก่อนนำลงตุ๋น (แต่วันนี้ผมรีบและหิวมาก ก็เลยไม่ได้หมักครับ โยนลงหม้อตุ๋นไปเลย)
◊ สำหรับคนที่ชอบเนื้อสด ให้หมักเนื้อสันในกับน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่น อย่างน้อย ๑ ชั่วโมง ส่วนนี้ไม่ได้เอาลงไปตุ๋นในหม้อนะครับ
◊ เอาเครื่องเทศสำหรับตุ๋น ได้แก่ ลูกผักชี พริกไทยดำ อบเชย โป๊ยกั๊ก ลูกจันทน์ ใบกระวาน ลูกกระวาน ไปคั่วให้หอม
◊ เตรียมห่อผ้าขาวบาง ใส่กระเทียม ๒ กำมือ และเครื่องยาจีนที่คั่วไว้ลงไปรวมกัน ผูกให้แน่น
◊ ใส่น้ำลงในหม้อตั้งไฟพอเดือด ใส่กระดูกข้อทุบพอแตก ตามด้วยเนื้อที่หมัก พอมีฟองให้ช้อนฟองออกให้หมด เมื่อฟองเริ่มหมด ให้ใส่ห่อเครื่องเทศ พอเนื้อสุกประมาณ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ให้ใส่ใบเตย ใบคึ่นฉ่าย แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำกระเทียมดอง น้ำดองชวงเจี่ย ๓ ช้อนแกง (ชวงเจี่ยหมักกับเหล้าเซี่ยงชุน ๑ คืน) ผงชูรส ซีอิ๊วหวานง่วนเชียง ซอสคิโคแมน (หรือซอสง่วนเชียง/ภูเขาทองฝาเขียว) ตุ๋นจนเนื้อเปื่อย
ผมตุ๋นไฟอ่อนมาก ใช้เวลากว่า ๓ ชั่วโมงเห็นจะได้ สีดำไม่ได้มาจากซีอิ๊วดำนะครับ แต่ได้มาจากเนื้อลำไยอบแห้งล้วนๆ เป็นสีอำพันน่ากินมาก อย่าลืมใบเตย ๒-๓ ใบใส่ลงไปด้วยนะครับ
ไม่ว่าจะทานเป็นเกาเหลาหรือเส้นต่างๆก็อร่อยครับ

popkook.blogspot.com

วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ซุปหางวัว

ซุปหางวัว  popkook






เครื่องปรุง
 หางวัวใช้แค่ครึ่งเดียวจากที่ซื้อมา ก็ประมาณกิโลครึ่งค่ะ
 อบเชย 2 แท่ง
 ลูกกระวาน 8 ลูก
 ขิงแก่บุบ 1 แง่งโต
 มะเขือเทศหั่นชิ้นใหญ่ 4 ลูก
 หอมใหญ่หั่นชิ้นใหญ่ 2 หัวโตๆ
พริกไทยเม็ดบุบ 10 เม็ด
 มันฝรั่ง 4 หัว (ความชอบส่วนตัวเลยใส่แยะหน่อย)


วิธีทำ
ล้างหางวัวให้สะอาด และต้มในน้ำให้เดือด คอยช้อนฟองและไขมันออก
หาช้อนกระเบื้องหรือถ้วยกระเบื้องใบเล็กๆ ใส่ไปในหม้อต้มด้วยจะช่วยให้เนื้อเปื่อยเร็ว
 เคี่ยวไฟอ่อนถึงกลางไปเรื่อยๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง จนกระทั่งหางวัวเปื่อย (ใช้ซ่อมลองจิ้มดูนะคะ)
 หางวัวเปื่อยได้ที่แล้วตักขึ้นมาพักไว้ (หางวัวไม่มีหนังจะดูยุ่ยๆ ไม่สวยแบบมีหนังกรอบๆ ฟูๆ )
 ใส่ขิงแก่ อบเชย ลูกกระวาน ในน้ำสต๊อกที่ต้มหางวัว ถ้าน้ำสต๊อกแห้งไปก็ให้เติมน้ำเพิ่ม
 ใส่หอมใหญ่ และตามด้วยมะเขือเทศจนนิ่มได้ที่ แล้วค่อยใส่มันฝรั่ง
ต้มหางวัวกลิ่นจะแรงกว่าเนื้อวัว เราจะหั่นก้านcelery ลงไปต้มด้วย
ตักหางวัวที่เคี่ยวไว้ลงไปต้มกับน้ำซุป ปรุงรสด้วยเกลือ


เครื่องปรุงซุป
 พริกขี้หนูบุบ
 น้ำมะนาว
 ใบคึ่นไช่
 หอมแดงทอดกรอบ



เคล็ดลับความอร่อยของซุปแบบอิสลาม
ในการปรุงซุปให้ใช้เกลือนะครับอย่าใช้น้ำปลาเพราะจะทำให้ซุปคาว และใช้ใบคึ่นไช่จะหอมกว่าผักชีค่ะ เพราะผักชีจะทำให้ซุปเหม็นเขียว



วิธีปรุง

บุบพริกขี้หนู บีบมะนาว ตักซุปราดลงไป รยด้วยใบคึ่นไช่กับหอมแดงทอดกรอบ

ลิ้นย่าง

ลิ้นย่าง popkook



ส่วนประกอบ  popkook     

     1.ลิ้นวัว                                              500     กรัม
     2.พริกไทย(เม็ดหรือป่นก็ได้)              1/2 ช้อนโต๊ะ
     3.ซอสปรุงรส                                     6    ช้อนโต๊ะ
     4.น้ำมันพืช                                         1    ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ popkook



     1.นำลิ้นวัวมาแล่ส่วนบนของลิ้นออกเพราะส่วนนี้จะเหนียวและสากมาก สไลด์ลิ้นตามความยาวเป็นแผ่น ๆ ให้มีความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร
     2.นำลิ้นที่สไลด์แล้วใส่ภาชนะพร้อมซอสปรุงรส พริกไทยและน้ำมันพืชคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วย่างได้เลย (หากมีเวลาจะหมักทิ้งใว้ โ่ดยไม่รีบนำลิ้นไปย่าง ประมาณ 10 นาทีก่อนก็ได้)


ส่วนผสมน้ำจิ้ม (ลิ้นย่าง)  popkook

     1.พริกป่น                                            3     ช้อนโต๊ะ
     2.น้ำปลา                                            5     ช้อนโต๊ะ
     3.น้ำมะนาว                                        7     ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ  popkook

          ผสมสมน้ำปลา น้ำมะนาวและพริป่นลงในภาชนะที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันอย่าให้ใสมาก ชิมดูให้มีรสชาติทั้งสามรส ตักใส่ถ้วยแล้วโรยด้วย ผักชีฝรั่ง และต้นหอมซอย ทานกับลิ้นย่างได้เลย



www.popkook.blogspot.com

ส้มตำลาวใส่มะกอก

ส้มตำลาวใส่มะกอก popkook



เครื่องปรุงมะละกอสับตามยาว              1 ถ้วย (100กรัม)
มะเขือเทศสีดา                     3 ลูก (30 กรัม)
มะกอกสุก                             1 ลูก (5 กรัม)
พริกขี้หนูสด                      10 เม็ด (15 กรัม)
กระเทียม                           10 กลีบ (30 กรัม)
น้ำมะนาว                          1-2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
น้ำปลา                              1/2 ช้อนโต๊ะ (8 กรัม)
น้ำปลาร้าต้มสุก                     1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)

วิธีทำ
1. โขลกกระเทียม พริกขี้หนู พอแตก
2.  มะเขือเทศผ่าซีก ฝานมะกอกเป็นชิ้นบางใส่ลงโขลกเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำมะนาว โขลกเบา ๆ พอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ 
3.  ใส่มะละกอที่เตรียมใว้แล้วโขลกคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอันเรียบร้อยตักใส่จาน รับประทานกับฝักสด หรือทานกับขนมจีนก็สุดยอดครับ

popkook.blogspot.com


แกงเปรอะอีสาน popkook


แกงเปรอะอีสาน  popkook



เครื่องแกงก็มีแค่หอมแดง พริกขึ้หนูแห้ง ตะไคร้ ใครชอบตำก็ตำนะครับ ใครชอบปั่นก็ปั่นเอาตามสบายเลย popkookใช้วิธีปั่นเอาครับวันนี้


เครื่องปรุง

◊ หน่อไม้สดต้มสุก (บุบพอแตก หั่นเป็นท่อนพอดีคำ)
◊ น้ำใบย่านาง ใช้เป็นกระป๋อง ใครมีสดก็ล้างใบย่านางให้สะอาด แช่น้ำอุ่น ขยำ แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
◊ น้ำปลาร้า 
◊ ปีกไก่ วันนี้ขอใส่ไก่ด้วยนะครับ เพราะอยากกิน(ไ่ม่ใส่ก็ได้ครับ)
◊ ข้าวเบือ (ข้าวเหนียวหรือข้าวสารแช่น้ำให้นิ่มสักพัก แล้วเอามาตำหรือปั่นให้ละเอียด)
◊ เกลือ ๑ ช้อนชา
◊ น้ำปลา
◊ ผงชูรส (วันนี้ขออนุญาตใส่ผงชูรส เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าอาหารอิสานไม่ใส่ผงชูรสจะไม่อร่อย)
◊ ชะอม 
 
    
ขั้นตอนการปรุง

ตั้งหม้อเลยครับ เทน้ำใบย่านางจากกระป๋อง เติมน้ำเปล่าอีก ๒ กระป๋อง ใช้กระป๋องน้ำใบย่านางนั่นแหละตวงเอา เติมเกลือ ๑ ช้อนชา เติมพริกแกงที่โขลกไว้   น้ำเดือดแล้วเติมปีกไก่ครับ  ไก่สุกแล้วเติมหน่อไม้สดที่เตรียมใว้  คนให้เข้ากันแล้วเติมปลาร้าตอนนี้เลยจ้า อยากให้มันซึมเข้าไปทุกอณูของผัก พอผักสุกก็เติมน้ำปลา ชิมรสตามใจชอบ  เสร็จแล้วเติมข้าวเบือได้เลย คนด้วยนะครับเดี๋ยวข้าวจะไปติดก้นหม้อ ต้มต่อซัก ๒-๓ นาทีแล้วปิดไฟครับ ตอนนี้เอายอดชะอมใส่ไปเลยครับ ใส่แมงลักด้วยจะได้หอมน่าทานมากขึ้นครับ ชะอมสุกก็ปิดไฟเป็นอันเสร็จครับ

popkook.blogspot.com

วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แกงไก่บ้านหน่อไม้ดอง

แกงไก่บ้านหน่อไม้ดอง




เครื่องปรุง-ส่วนผสม
      

   

  

1  ไก่บ้าน(กำลังหนุ่มหรือไก่สาว)          1/2    ตัว
2  หน่อไม้ดอง                                       1       ถ้วย
3  พริกชี้ฟ้าแดง                                      5      เม็ด
4  หัวหอม                                               3      หัว
5  ตะไคร้                                                 2      ต้น
6  ใบมะกรูด                                             5      ใบ
7   น้ำปลาร้า                                            1/4   ถ้วย
8   ใบแมงลัก                                           1/2    ถ้วย

ขั้นตอน-วิธีการปรุง

                เอาน้ำใส่หม้อกะประมาณท่วมไก่ตั้งไฟให้เดือดใส่ตะไคร้หั่นเป็นท่อน ใบมะกรูดเเละน้ำปลาร้าโขลกพริกกับหอมเเดงพอเเตกใส่ในหม้อเเล้วใส่ไก่สับเป็นชิ้นพอคำใส่ตามลงไปไม่ต้องคน หน่อไม้ดองเเช่น้ำไว้เอามาใส่ไม่ต้องคั่นเดียวจืดซาวขึ้นจากน้ำใส่ในหม้อเลยพอหน่อไม้สุกชิมดูปรุงรสตามชอบปิดท้ายโรยด้วยใบเเมงลัก ยกลงเสริฟได้เลย

ราเมนเกี๊ยวกุ้ง

ราเมนเกี๊ยวกุ้ง

http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/00.JPG



:: ส่วนผสมและวิธีทำ  "น้ำซุป" ::
- โครงไก่ 2 โครง
- กระดูกหมู (กระดูกซุป) 300 กรัม
- แครอท 1 หัวเล็ก
- หัวไชเท้า 1/2 หัวใหญ่
- กะหล่ำปลี 1/4 หัวใหญ่
- กระเทียมดอง 3 หัว
- หอมใหญ่หัวเล็ก 2 หัว
- เกลือทะเล 1 ถุง (50 กรัม)
- น้ำสะอาด  14 ลิตร
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-01.JPG
เริ่มต้นก็ให้เราเอาซี่โครงไก่และกระดูกหมูไปล้างทำความสะอาดซะก่อนครับ ... สำหรับกระดูกหมูก็แค่สับชิ้นใหญ่ ๆ แล้วล้างให้หมดเศษผงเศษกระดูกก็พอ  ส่วนโครงไก่ก็ให้ควักสาปด้านในที่มีลักษณะเป็นเหมือนก้อนเลือดออกมา และตัดส่วนที่เป็นก้อนไขมันทิ้งไปให้หมด ก่อนที่จะล้างให้สะอาดเหมอืนกระดูกหมูครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-02.JPG
ส่วนผักทุกชนิดที่พิมบอกไว้ด้านบนอย่างหอมใหญ่ก็ให้ปอกเปลือก  แครอทกะหัวไชเท้าหั่นเป็นชิ้นใหญ่ และกะหล่ำปลีก็ล้างให้สะอาด  ..... ใส่รวมไว้ในกาละมังเดียวกัน   ใส่กระเทียมดองลงไป ตามด้วยเกลือป่น  1 ถุง และพักไว้ก่อนครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-05.JPG
หันมาตั้งหม้อใบย่อม ๆ บนเตาไฟ ใส่น้ำสะอาดลงไปครึ่ง-ค่อนหม้อ  เปิดไฟกลาง  รอจนน้ำเดือดจัด ก็ใส่กระดูกหมูลงไปลวกสัก 2-3 นาที  แล้วก็ใช้กระชอนโปร่งๆ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ........ ซี่โครงไก่ก็ทำเช่นเดียวกันครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-03.jpg
ก็จะได้กระดูกหมู และซี่โครงไก่ที่ลวกแล้วออกมาหน้าตาประมาณนี้นะครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-04.JPG
จากนั้นก็หยิบหม้ออีกใบขึ้นมา (หม้อนี้เป็นหม้อที่เราจะใช้ต้มน้ำซุป)  ใส่น้ำสะอาดลงไปประมาณ 13 ลิตร  ตามด้วยกระดูกไก่+กระดูกหมูที่เราลวกได้แล้ว+ผักในกาละมังทั้งหมด  จากนั้นก็เปิดไฟเตากลางๆ  รอจนน้ำเดือดจัด ก็หรี่ไฟเตาลงให้เหลือไฟอ่อน  ... ระหว่างนี้สังเกตุว่าจะมีฟองขาว ๆ ที่ด้านบนผิวน้ำด้วย  ก็ให้ใช้ทัพพีหรือกระบวยคอยช้อนฟองออกเป็นระยะๆ  จนกระทั่งฟองสีขาวๆ  หมดไป หรือไม่ก็เหลือน้อยที่สุด  ก็ปิดฝาหม้อ แล้วหรี่ไฟให้อ่อนมากๆ  ต้ม+เคี่ยวน้ำซุปไปเรื่อย ๆ เป็นเวลาประมาณ 3 ชม. อ่ะครับ
ป.ล. หลังจากครบ 3 ชม.  ก็ทำการชิมน้ำซุปนะครับ ว่ารสชาติเป็นยังไง หากเค็มไปเพราะเราใช้ไฟแรงเกิน ทำให้ปริมาณน้ำซุปในหม้อลดลงมาก ก็ต้องเติมน้ำสะอาดเพิ่มลงไปครับ  แต่ถ้าจืดไป อาจจะต้องเปิดฝาหม้อแล้วต้มต่อไปอีกสักแป๊บ เพื่อให้น้ำระเหยไปบ้าง น้ำซุปที่เหลือจะได้เข้มข้นมากขึ้นอ่ะครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-06.jpg
ซึ่งระหว่างเคี่ยวน้ำซุปนี่ ..... เราก็มาเตรียมทำในส่วนผสมอื่นกันครับ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง  "เกี๊๊ยวกุ้ง" ::
- กุ้งสดเฉพ่่าะเนื้อ  120 กรัม  ............ (ถ้านวดด้วยเครื่อง หั่นชิ้นใหญ่ ประมาณตัวละ 4 ชิ้น / ถ้านวดมือให้สับหยาบๆ)
- หมูสับติดมัน 80 กรัม  ........... (ถ้านวดด้วยเครื่อง สับหยาบได้ / ถ้านวดมือให้สับละเอียดมากๆ หรือจะใช้หมูเด้งที่ไม่ผสมสีแทนก็ได้)
- ไข่ไก่ฟองเล็ก (เบอร์ 4)  1 ฟอง .......... ถ้าใหญ่กว่านี้ จะทำให้ส่วนผสมเหลวเกินไป อาจจะต้องเติมแป้งข้าวโพดลงไปสักเล็กน้อย
- ซีอิ๊วขาว  1 - 1 1/2 ชต. ............ พิมใช้วิธีเหยาะเอาจากขวดเลย ไม่ได้ตวง เลยขอประมาณมาให้แทน
- น้ำมันหอย  1 ชต.
- พริกไทยป่น  1/2 ชช
ป.ล. กุ้งกับเนื้อหมู และไข่ไก่ แช่ให้เย็นจัดก่อนเอามาใช้นะครับ



http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-07.JPG
สำหรับเกี๊ยวกุ้งเนี่ย ... จริง ๆ ผมมีหลายสูตรครับ  แต่สูตรที่เลือกมาใช้ในวันนี้เป็นสูตรที่ส่วนผสมน้อยสุด  ทำได้ง่ายที่สุด และสามีชอบที่สุดสูตรนึงในบรรดา 2-3 สูตรครับ  ซึ่งหากใครต้องการสูตรที่ยุ่งยากกว่านี้ ไว้พิมจะเอามาฝากวันหลังในเมนูอื่นนะครับ
วิธีทำเกี๊ยวกุ้งตามสูตรนี้ก็ไม่ยากครับ แค่เอาส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องผสมอาหาร  (พิมใช้เครื่อง Food Processor ของ Mara)  กดปั่นไปประมาณสัก 3 นาที กะว่าให้ส่วนผสมเข้ากัน และเหนียวพอประมาณก็เป็นอันใช้ได้ล่ะครับ อย่าปั่นนานเกิน ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นลูกชิ้นกุ้งแทนเกี๊ยวกุ้งได้อ่ะครับ .... แต่ถ้าใครไม่มีเครื่องผสมอาหารแบบผมนี่ ก็สามารถใช้การนวดด้วยมือ  (แบบนวดไฟ ฟาดส่วนผสมกับกาละมังไปเป็นระยะๆ)  แทนได้นะครับ  แต่ต้องใช้พลังหน่อยนึง และก็ใช้เวลานานนิดนึง แต่ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมาคล้ายๆ  กันอ่ะครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-08.JPG
ปั่นเสร็จแล้วก็ได้ออกมาเป็นแบบนี้  ... ส่วนผสมค่อนข้างเหนียวเล็กน้อย  เนื้อหมูละเอียด ส่วนเนื้อกุ้งยังพอเป็นชิ้นกุ้งอยู่บ้างครับ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-09.JPG
ก็เอาไปห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวยี่ห้อที่ชอบ  ...... ส่วนตัวผมใช้ยี่ห้อนำชัยสีเขียวครับ  แป้งเค้าบางดี ไม่มีแป้งนวลเยอะ  และเวลาเราลวก แผ่นแป้งยี่ห้อนี้ก็ไม่เละง่ายด้วยครับ


:: ส่วนผสม  "กระเทียมเจียว" ::
- กระเทียมโขลกเกือบจะละเอียด  1/2 ถ้วย
- น้ำมันพืช 1/2 ถ้วย
สำหรับกระเทียม ผมเลือกใช้กระเทียมไทยกลีบเล็กครับ เพราะว่าหอมกว่าและให้รสที่ไม่เผ็ดจัด กลิ่นก็ไม่ฉุนเกิน ส่วนปริมาณก็ราว ๆ ครึ่งถ้วยแกงได้  ...... แกะกระเทียมจากหัวออกเป็นกลีบ ๆ ปอกเปลือกตัดหัวตัดหางส่วนที่แข็ง ๆ ทิ้งไป เหลือเปลือกบางๆ ไว้โขลกหรือปั่นให้แหลกพอประมาณ  แล้วนำไปเจียวจนเป็นสีเหลืองทอง  ซึ่งตอนเจียวอย่าใจร้อนเปิดไฟให้แรงเกินเพื่อที่จะให้มันเหลืองไว ๆ  เพราะกระเทียมมันอาจจะไหม้ได้ครับ  ให้เจียวด้วยไฟกลาง เจียวแบบใจเย็น ๆ คนด้วยตะหลิวเกือบจะตลอดเวลา พอเหลืองสัก 70% ...... ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน  และด้วยความร้อนที่มันยังคงมีอยู่ พอผ่านไปสักแป๊บ เราก็จะได้กระเทียมเจียวที่เหลืองทั่วกัน 100% อ่ะครับ ......   อ้อๆ   แล้วอย่าลืมเก็บน้ำมันที่เจียวกระเทียมใส่ไว้อีกถ้วยนึงด้วยนะครับ

ทำน้ำซุปไว้แล้ว เตรียมเกี๊ยวกุ้งไว้แล้ว เจียวกระเทียมไว้แล้ว ก็มาเตรียมวัตถุดิบอื่นๆที่เหลือทั้งหมดกันครับ
:: ส่วนผสม/วัตถุดิบอื่นๆ ::
- เส้นบะหมี่ไข่ , เส้นบะหมี่ฮกเกี้ยน , เส้นบะหมี่ราเมง ........ เลือกตามชอบ
- ลูกชิ้นปลา , ลูกชิ้นกุ้งต้ม , ลูกชิ้นกุ้งทอด , ลูกชิ้นหมู .......... เลือกตามชอบ
- ผักกวางตุ้งจีน , ผักกวางตุ้งไต้หวัน , กะหล่ำปลี ........ เลือกตามชอบอีกเช่นกัน
- หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด ......... ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้  แต่พิมใส่
ต่อมาก็มาดูส่วนประกอบหรือวัตถุดิบอื่น ๆ กันครับ ไม่ว่าจะเป็นเส้น ลูกชิ้นหมู (ปกติใช้ลูกชิ้นกุ้งทอด)  และลูกชิ้นปลา (อันนี้ของเกาหลียี่ห้อซากุระ หวานมาก ไม่ซื้ออีกแล้ว)  .....  ก็จับทั้งลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลามาหั่นเตรียมเอาไว้ครับ   ผักก็แกะเป็นกาบๆ  (ใช้กวางตุ้งไต้หวัน หวานดี) ล้างน้ำให้สะอาด และหั่นเป็นท่อนสั้นๆ  เอาไว้   ส่วนเส้นบะหมี่ราเมนก็คลี่ออกจากกันไว้เช่นกันนะครับ
ป.ล. สำหรับลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลาเนี่ย  เพื่อนๆ สามารถเลือกใช้ได้ตามชอบเลยนะครับ  แต่ส่วนผักเนี่ย ผมขอแนะนำเป็นกวางตุ้งจีน กวางตุ้งไต้หวัน ไม่ก็กะหล่ำปลีครับเข้ากันดี  ส่วนเส้นก็เป็นเส้นบะหมี่ไข่  เส้นบะหมี่ฮกเกี้ยน (ที่เหลืองๆ กลมๆ)  หรือจะเป็นเส้นบะหมี่ราเมงแบบผมจะเข้ากับน้ำซุปด้านบนมากกว่าพวกเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่อ่ะครับ

เมื่อเตรียมเครื่องด้านบนไว้แล้ว  ก็หันไปตั้งหม้อใบย่อม ๆ สักใบบนเตาไฟ ใช้ไฟกลาง ๆ นะครับ ใส่น้ำไปสักครึ่งหม้อ ....... รอจนน้ำเดือด ก็นำเกี๊ยวลงไปต้มให้สุกเป็นอย่างแรกก่อนครับ

พอสุก (ลอยอยู่บนผิวน้ำในหม้อสัก 1 ถึง 1 นาทีครึ่ง ขึ้นกับขนาดเกี๊ยวและความหนาแน่นของไส้เกี๊ยว) .... ก็ใช้กระชอนโปร่งๆ ตักขึ้นแบบสะเด็ดน้ำ เอาใส่ชาม แล้วก็เอาน้ำมันกระเทียมเจียวลงไปคลุก ๆ สักนิด พอไม่ให้ติดกันอ่ะครับ

จากนั้นก็หันไปลวกลูกชิ้นกับผักค่ะ  สำหรับลูกชิ้นไม่ต้องลวกนาน แค่พอลอยขึ้นมาบนผิวน้ำสักแป๊บก็ใช้ได้ครับ  ถ้าลวกนานเกินไปลักษณะของเนื้อลูกชิ้นจะเปลี่ยนไป ไม่ค่อยแน่นเหมือนปกติ ..... ส่วนผักก็ลวกให้นิ่มตามชอบครับ  (ผักนี่ ลวกเสร็จแล้วแช่น้ำเย็นสักหน่อย ผักจะได้มีสีเขียวสดตลอดเวลานะครับ)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-19.jpg
เสร็จแล้วก็ลวกเส้นครับ .... ซึ่งตอนลวกเส้นนี่พิมนึกว่าผมถ่ายรูปไว้แล้ว แต่เอาจริงก็ไม่ได้ถ่ายซะงั้น แต่ไม่เป็นไรค่ะ ผมอธิบายด้วยคำพูดให้ฟังล่ะกันนะครับว่า  พอน้ำเดือดจัด ใส่เส้นที่คลี่ออกจากกันแล้วลงไป  ต้มจนกระทั่งเส้นสุก  ซึ่งถ้าเป็นเส้นแบบผมใช้เวลาต้มประมาณ 4 นาที  ส่วนเส้นบะหมี่ทั่ว ๆ ไป ใช้เวลาลวกประมาณ 30-40 วิ ขึ้นกับความแรงของน้ำเดือด อย่าลวกนานเกินไปเส้นจะเละครับ  ........ แล้วพอลวก/ต้มเสร็จ  ก็ใช้กระชอนตาโปร่ง ๆ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ     เอาใส่กาละมัง ตักน้ำมันกระเทียมเจียวใส่ลงไปนิดหน่อย  ใช้ตะเกียบคนพอให้น้ำมันเคลือบเส้นทั่ว ๆ กัน เส้นจะได้ไม่ติดกันอ่ะครับ   .... แต่ถ้าเส้นบะหมี่ราเมงแบบผม ไม่ต้องใส่น้ำมันกระเทียมเจียวก็ได้นะครับ ไม่ค่อยติดกันอยู่แล้ว   

แล้วระหว่างที่ผมกำลังเตรียมเครื่องก๋วยเตี๋ยวราเมงของผมอยู่  น้องชายก็ซื้อหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดจาก Max Value มาฝาก
ด้วยอ่ะครับ  .... เพราะงั้นเมื่อรวมเครื่องราเมงของผมแล้ว ก็เลยจะมีสมาชิกประมาณนี้นะครับ   (ต้นหอมซอยในภาพใส่เพื่อเพิ่มความหอม และความหวานให้ก๋วยเตี๋ยวของเราครับ จะไม่ใส่ก็ได้ / แต่สำหรับน้ำซุปมิโซะที่ผมทำกินด้วยควรใส่ครับ จะเพิ่มความอร่อยได้อีกเยอะเลย)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/ramen-21.JPG
จากนั้นก็ถึงเวลากินแล้วล่ะครับ ........ ขั้นแรกก็เอาผักลวกรองก้นถ้วยก่อน ตามด้วยเส้นบะหมี่ราเมงปริมาณตามชอบ

แล้วก็ตักน้ำซุปราดลงไป  แต่งหน้าด้วยเกี๊ยวกุ้ง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นหมู  หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด และเครื่องอื่นๆ  (ถ้ามี) พอประมาณ ........  แล้วเราก็จะได้  "ราเมงเกี๊ยวกุ้ง"    ฉบับง่าย ๆ ออกมาหน้าตาอย่างนี้ล่ะครับ   ขอบอกว่าแม้จะไม่เหมือนราเมงของญี่ปุ่น แต่รสชาติถูกใจมากๆ  ครับ  ทั้งน้ำซุปทั้งเกี๊ยว ทั้งเส้น ทั้งลูกชิ้นปลาเข้ากันมาก  (แต่ลูกชิ้นหมูไม่ค่อยเข้าครับ เปลี่ยนเป็นลูกชิ้นปลาดี ๆ หรือลูกชิ้นกุ้งจะเวิร์คกว่า)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/my-ramen/00.JPG

ข้าวคลุกพริกเกลือ

ข้าวคลุกพริกเกลือ

http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/rice-mixed-with-salt-and-chili/00.JPG "พริกเกลือ" มาจากส่วนผสมของน้ำจิ้มที่จะตำพริกเกลือ กระเทียม รวมกันก่อน แล้วปรุงรสด้วยอย่างอื่น เรียก "น้ำจิ้มพริกเกลือ" แล้วก็เอาน้ำจิ้มมาคลุกกับข้าว แล้วเรียกว่า "ข้าวคลุกพริกเกลือ" 



:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง  ::
- กุ้งสด 9 ตัว  .......... ผมใช้ขนาด 40 ตัว 1 กิโล
- หมึกสดขนาดกลาง 3 ตัว  .......... ผมใช้ขนาด 10 ตัวโล / เป็นหมึกไข่
- เนื้อหมู (ส่วนที่ชอบ) 100 กรัม
- ไข่เป็ด 3 ใบ
- น้ำจิ้ม
- แตงกวา 3 ลูก
- ผักชี 3 ต้น
- ข้าวหอมมะลิหุงสวย ๆ กำลังร้อน 3 จาน
- กระเทียมเจียว และน้ำมันกระเทียมเจียวเล็กน้อย  ............. (ปกติเค้าไม่ใส่กัน แต่ผมว่าใส่แล้วก็อร่อยไปอีกแบบ)
:: ส่วนผสมน้ำจิ้ม  ::
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก 15 กลีบ
- พริกขี้หนูสวนเขียวแดง 12-20 เม็ด
- มะนาว 3 ลูก  หรือน้ำมะนาว 3 ชต.
- น้ำปลา 1 + 1/2 ชต.
- เกลือป่น 1 ชช.
- รากผักชี 3 ราก
- น้ำตาลทราย 2 + 1/2 ชช.
:: หมายเหตุ ::
- เกลือป่นที่ใช้ คือ เกลือทะเลธรรมดา ไม่ใช่เกลือไอโอดีน
- ภาพส่วนผสมของน้ำจิ้มอยู่ในช่วงวิธีทำ
:: วิธีทำ ::http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/rice-mixed-with-salt-and-chili/rice-mixed-with-salt-and-chili-01.JPG
อันดับแรกเราก็มาจัดการกับเนื้อสัตว์กันก่อน
กุ้ง .... ผมเลือกใช้ขนาด 40 ตัวหนัก 1 กิโล  ก็หลังจากได้กุ้งมาแล้ว ให้แกะเปลือกกุ้งออก  ไม่ต้องผ่าหลังนะครับ  แต่ให้ดึงเส้นดำด้านหลังกุ้งกับด้านใต้ท้องกุ้งออก  แล้วดึงส่วนหัวทิ้งไป (ทั้งหมด)  ส่วนหางจะไว้หรือไม่ไว้ก็ตามชอบครับ
หมึก ..... ผมเลือกซื้อหมึกขนาด 10 ตัวโลมาครับ (และเป็นหมึกไข่ แต่ไม่จำเป็น)   หลังจากได้หมึกมาแล้วก็ทำให้ดึงเส้นขาวๆ  ใสๆ ในตัวหมึกออก  ตัดส่วนลูกกะตาหมึกและลูกกลม ๆ ขาวๆ  ในหัวหมึกออก  ล้างให้สะอาด พักไว้ครับ
เนื้อหมู ..... เลือกส่วนที่ชอบครับ  แต่โดยปกติเค้าจะนิยมหมูส่วนสะโพกหรือส่วนสันนอกกัน แต่ผมไม่ค่อยชอบเนื้อหมูแบบนั้นครับรู้สึกมันแห้ง ๆ เลยขอให้เป็นสันคอหรือสามชั้นแทน  ซึ่งหากเพื่อนๆ คนไหนจะใช้หมูสามชั้นแบบพิม ก็ให้ตัดส่วนหนังของสามชั้นทิ้งไป  และถ้ามีมันมาก ก็ตัดส่วนมันทิ้งไปบ้างก็ได้ครับ
และในส่วนนี้หากเรามีเนื้อปลา เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า หรือเนื้อปู จะเพิ่มมาด้วยก็ได้ .. ไม่เสียหายครับ
เมื่อเราเตรียมวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์เสร็จ ก็ให้เราเอาน้ำสะอาดใส่หม้อย่อม ๆ แล้วนำหม้อขึ้นตั้งเตาไฟ เปิดไฟกลาง ๆ  รอจนน้ำเดือดจัดก็เหยาะเกลือลงไปสัก 1/2 ชช. 

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ลาบปูนา

ลาบปูนา





วิธีทำลาบปู และ เครื่องปรุง
ส่วนผสม
  • 1. ปูนา 5-10 ตัว
  • 2. หอมแดง 2 หัว
  • 3. ตะใคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • 4. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • 5. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  • 6. น้ำปลา 1 ช้อนชา
  • 7. มะนาว 1/2 ลูก
  • 8. ผักชีฝรั่ง
  • 9. ใบสะระแหน่
ขั้นตอนการทำ
  • ล้างปูนาให้สะอาด และทำการแกะปูส่วนหน้าอกออก แยกเอาไว้ก่อน
  • ตำส่วนอื่นของปูให้ละเอียด ตักขึ้นใส่ชาม เติมน้ำสะอาดลงไปหน่อยคลุกให้เข้ากัน
  • นำตะแกรงมาลองแล้วบีบ กรองเฉพาะส่วนน้ำมาใช้ปรุงอาหาร
  • เอาช้อนมาขูดมันปูส่วนบริเวณหน้าอกปูที่แยกไว้ในขั้นตอนแรกมาผสมกับน้ำที่ได้จากการกรอง
  • นำน้ำไปตั้งไฟปานกลาง คอยคนตลอดเวลา จนกระทั้งร้อนได้ที่
  • บีบน้ำมาะนาวใส่ลงไป ตามด้วยพริกป่น ข้าวคั่ว น้ำปลา หอมแดงซอย ตะใครซอย ฝักชีฝรั่งซอย และใบสะระแหน่
  • พอเดือดได้ที่ก็เป็นอันว่าเสร็จแล้วครับ สำหรับเมนู ลาบปูนา สุดอร่อย